วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ธุรกิจเครือข่าย กับ ร้านอินเตอร์เน็ต..

อาชีพส่วนตัว หรือ อาชีพอิสระ เพื่อนๆ ชอบหรือไม่ !!

ปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่า ผู้คนทั่วไปให้ความสำคัญและหันมาประกอบ อาชีพส่วนตัว หรือ อาชีพอิสระ กันมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ธุรกิจบางแห่งปิดกิจการ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลดจำนวนพนักงานลง แต่มีผู้สำเร็จการศึกษาที่จะเข้าสู่งานอาชีพเพิ่มขึ้น อัตราการจ้างงานลดลง ทำให้คนจำนวนหนึ่งไม่สามารถหางานทำได้ ตลอดจนรัฐบาลให้การสนับสนุนการประกอบอาชีพส่วนตัวจึงเป็นอาชีพที่เลือกดำเนินการได้ ตามความรู้ความสามารถ ความถนัด ความสนใจ และการสนับสนุนของบุคคลในครอบครัว ย่อมทำให้เกิดความภาคภูมิใจ เกิดรายได้ และดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข

ซึ่งธุรกิจ ร้านอินเตอร์เน็ตค่าเฟ่ ก็เป็นธุรกิจตัวนึงที่กำลังเป็นที่สนใจของหลายๆคนที่อยากจะมีกิจการอะไรสักอย่างที่เป็นกิจการของตัวเองจริงๆ

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ นั้นเป็นอาชีพที่มักจะทำให้เจ้าของกิจการหลายๆคน เกิดความเฉื่อยชา ขาดความกระตือรือล้น (ขี้เกียจ) ทั้้งนี้ก็เนื่องมากจากว่า มันเป็นอาชีพที่ได้เงินมาง่ายๆ เพียงแค่เปิดร้าน แล้วก็รอให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ แค่นี้ก็ได้เงินแล้ว..

จะเห็นได้ว่า เจ้าของ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หลายๆคน มักจะใช้เวลาว่างไปกับการทำกิจกรรมบางอย่างที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์เท่าใดนัก ยกตัวอย่างเช่น..

- นั่งเล่นเกมส์ออนไลน์ (บางคนติดเกมส์ออนไลน์งอมแงม เล่นทั้งวันทั้งคืนก็มี..)
- นั่งดูหนัง ฟังเพลง จากเว็บไซต์ต่างๆ
- นั่งเล่นแคมฟรอก หรือ เล่น MSN
- นั่งดูทีวี
- นั่งคุยกับคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง
- นั่งเฉยๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไปวันๆ
- ฯลฯ ..

วันนี้ จะดีกว่ามั๊ย.. หากเพื่อนๆที่กำลัง หางานทำที่บ้าน และเป็นเจ้าของกิจการ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ จะหันมาให้ความสำคัญกับการใช้เวลาว่างให้เิกิดประโยชน์กันมากขึ้น

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ จะเป็นผู้ที่ีมีความรู้ ความสามารถ ในเรื่องของการใช้ คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เป็นอย่างดี หากสามารถที่จะนำความรู้หรือข้อไ้ด้เปรียบในส่วนนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และสามารถสร้างเป็นรายได้เสริมอีกทางนึง ก็น่าจะดีใช่มั๊ยครับ !!

ณ วันนี้.. ต้องบอกเลยว่า มีธุรกิจที่เหมาะสมกับวิถีชีวิืต (Life Style) ของเจ้าของ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ธุรกิจออนไลน์ และ ธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ เพราะชีวิตประจำวันของเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตนั้น ก็ผูกพันอยู่กับคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ผมเองก็เป็น มนุษย์ออนไลน์ เช่นเดียวกันครับ.. (วันๆนึง ผมนั่งอยู่หน้าจอคอม ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง..)

หากเพื่อนๆ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทั้งหลาย สนใจอยากจะเรียนรู้วิธีสร้างรายได้เสริมจากธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ ล่ะก็ เพื่อนๆต้องเริ่มจากการศึกษา เรียนรู้ แก่นแท้ของการทำธุรกิจเครือข่ายในโลกออนไลน์ ให้กระจ่างชัดก่อน โดยเริ่มต้นจากการอ่านE-Book "คัมภีร์แรงดึงดูด" ให้จบโดยเร็ว แล้วเพื่อนๆจะได้รู้ว่า หากเพื่อนๆมีความรู้ที่แท้จริงในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ แล้ว ความสำเร็จก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม..

ฟันธง!






วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

ธุรกิจ ร้านอินเตอร์เน็ต ดีจริงมั๊ย??..

ทำไมน้อ.. ใครๆก็อยากเปิด ร้านอินเตอร์เน็ต??

ทุกวันนี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า มีธุรกิจส่วนตัวอย่างนึง กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่

ไม่ว่าเราจะเดินไปตามตรอก ซอก ซอย หรือที่ไหนๆก็ตาม ก็มักจะพบเจอกับ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ มากมายเต็มไปหมด

ในบางแห่งจะพบว่ามี ร้านอินเตอร์เน็ต เปิดอยู่ติดๆกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ใกล้ๆกับ สถานศึกษา (โรงเรียน มหาวิทยลัย) ศูนย์การค้าต่างๆ แหล่งชุมชน ตลาดสด ฯลฯ

ทำไม?? ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ถึงเป็นที่สนใจของใครหลายๆคน..

1. เป็นธุรกิจส่วนตัว (ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของกิจการ มีอิสระ ไม่มีเจ้านาย จริงมั๊ยครับ..)
2. รายได้ดี (ถ้าอยู่ในทำเลที่ดี และมีคู่แข่งน้อย หรือไม่มีคู่แข่งเลยยิ่งดี..)
3. งานสบาย ไม่ต้องใช้ความสามารถพิเศษอะไรมากนัก แค่เพียงใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้ ก็พอแล้ว แต่ถ้ามีความรู้ทางเทคนิคด้วย ก็ยิ่งได้เปรียบ..
4. คนว่างงานกันเยอะ จึงหันมาหาธุรกิจส่วนตัวทำกัน
5. กลุ่มลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ มีจำนวนมาก
6. ไม่ต้องง้อหรือตื้อใคร ลูกค้าเป็นฝ่ายเข้ามาหาเราเอง
7. ลงทุนครั้งเดียว เก็บเีกี่ยวรายได้ต่อเนื่องหลายปี
8. และอีกหลายๆ เหตุผล บรรยายไม่หมด..

แล้วธุรกิจ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ มันดีจริงๆ หรือ!!

ต้องยอมรับว่า ธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมันเกิดกระแสความนิยมขึ้นเมื่อไร ก็มักจะมีผู้คนที่กำลัง หางานทำที่บ้าน แห่เข้ามาทำกันเต็มไปหมด สิ่งที่ตามมาก็คือ เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุดไหนที่มีจำนวนร้านอินเตอร์เน็ตอยู่หนาแน่น การแข่งขันก็จะยิ่ง ดุเดือด และ รุนแรง ยกตัวอย่างเช่น

  • เกิดการตัดราคาค่าบริการ บางร้านชั่วโมงละ ไม่ถึง 10 บาท (ไม่รู้ว่ามีกำไรกันหรือเปล่า..)
  • เกิดการ ลด แลก แจก แถม (ประมาณว่า เล่นเกมส์แล้วแถมขนมฟรี กินกันจนจุกไปเลย.. หรือ จ่าย 100 บาท เล่นได้ทั้งวัน จนรากงอกไปเลย..)
  • เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน (แอบเปิดให้เด็กๆที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เล่นก่อนเวลา..)
  • เกิดการแข่งขันในเรื่องคุณภาพ (ร้านไหนทุนหนาหน่อย เป็นอาเสี่ยหน่อย.. ก็จะอัปเกรดเครื่องให้มีเสป็กที่แรงกว่าร้านอื่นๆ)
  • เกิดการเข่งขันในเรื่องการบริการ (อันนี้ถือว่า เป็นข้อดีเพราะ ทุกคนก็อยากที่จะได้รับการบริการที่ดีๆ)
  • มีการกลั่นแกล้งกันต่างๆนาๆ เช่น โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ำตำรวจว่า ร้านข้างๆ แอบเปิดให้เด็กเล่นก่อนเวลา หรือ แจ้งว่า ร้านอื่นมีการซื้อ-ขาย ยาเสพติด, มีสื่อลามก อนาจารภายในร้าน ฯลฯ)
  • ถูกกลุ่มมิจฉาชีพ ใ้ช้เป็นช่องทางทำมาหากิน เช่น กลุ่มมิจฉาชีพปลอมตัวมาจับเรื่อง ลิขสิทธิ์เพลง ลิขสิทธิ์เกมส์ หรือ ลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ต่างๆ เป็นต้น.. ผมเองก็โดนมาเยอะครับ แบบนี้ !!!

ผลที่ตามมา ก็คือ

  • ร้านที่มีขนาดเล็ก หรือมีทุนน้อย จะสู้แรงกดดันไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องปิดกิจการไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
  • ได้กำไรน้อยลง หรือบางทีเสมอตัว(ไม่มีกำไร)
  • ขาดทุน (รายได้ ไม่คุ้มกับ รายจ่าย)
  • เหนื่อยอ่อน ท้อแท้ หมดกำลังใจที่จะทำต่อ

ที่พูดมาทั้งหมด ทั้งมวลนั้น ไม่ใช่จะบอกว่า การทำ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ไม่ดีนะครับ เพราะยังมีร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ จำนวนมาก ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างๆ ด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น

  • ทำเลที่ตั้งของร้าน (อยู่ใกล้สถานศึกษา ตลาด ศูนย์การค้า หรือแหล่งชุมชน จะได้เปรียบมากๆ)
  • คุณภาพ และ จำนวนของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ร้านใหญ่ๆ จะได้เปรียบในข้อนี้ อย่างเห็นได้ชัด)
  • คุณภาพของระบบอินเตอร์เน็ต (ความเร็วและความเสถียรของระบบอินเตอร์เน็ต)
  • คุณภาพของการให้บริการลูกค้า (อัธยาศัยใจคอและความเป็นกันเองของเจ้าของร้าน)
  • สภาพแวดล้อมภายในร้าน (ความสะอาด ความปลอดภัย)

ไม่ว่า เพื่อนๆ จะทำธุรกิจอะไรอยู่ก็ตาม หากต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ความุ่งมั่น ทุ่มเท และตั้งใจจริง เพียงอย่างเดียวยังไม่พอครับ สิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ ความรู้-ความเข้าใจในธุรกิจที่่เรากำลังทำอยู่ เพื่อนๆว่าจริงมั๊ยครับ !!

รีบอ่าน คัมภีร์แรงดึงดูด ให้จบโดยเร็ว แล้วเพื่อนๆจะรู้ว่า การทำุ ธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ เป็นอาชีพเสริม ควบคู่ไปกับงานประจำ ภายในร้านอินเตอร์เน็ตของเพื่อนๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป


วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

ทำอย่างไรให้ 1 วัน มีมากกว่า 24 ชั่วโมง ??..

ทุกวันนี้ เรามักจะได้ยินหลายๆคนบ่นกันว่า ไม่มีเวลาบ้างล่ะ ไม่ว่างบ้างล่ะ มีเวลาน้อยบ้างล่ะ ทั้งๆที่ 1วัน ก็มี 24 ชั่วโมงเท่าๆกับของคนอื่น แล้วเวลามันหายไปไหนหมด..

เพื่อนๆ คงรู้สึกนะครับว่าการ หางานทำที่บ้าน ด้วยการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์อยู่กับบ้าน ย่อมจะมีบรรยากาศในการทำงาน ต่างจากการนั่งทำงานในออฟฟิศจริงๆ ซึ่งได้จัดบรรยากาศในการทำงานไว้ให้เราอย่างเต็มเปี่ยม การนั่งทำงานจากที่บ้าน จึงมีปัจจัยหลายอย่าง ที่มักจะหันเหเราออกไปจากความมุ่งมั่นในแต่ละวันได้เสมอ

เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันเท่ากัน เราบริหารเวลาอย่างไร ก็ย่อมส่งผลถึงธุรกิจของเราอย่างนั้น ยิ่งโดยเฉพาะการทำธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ด้วยแล้ว การบริหารเวลา จึงไม่ได้หมายความแค่ การจัดสรรเวลา เท่านั้น แต่มันยังหมายถึง การบริหารชีวิตทั้งหมดของเรา อีกด้วยครับ

เอาล่ะครับ เรามาดูกันเลย ว่า 10 สุดยอด การบริหารเวลา สำหรับนักธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ มีอะไรบ้าง

1. คุณต้องทำตารางการทำงานของจริงครับ
หมาย ถึง คุณต้องทำตารางการทำงาน ที่จับต้องได้ ขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงคิดไว้คร่าวๆในใจว่าจะทำอะไรบ้าง เพราะในแต่ละวัน มักจะมีเรื่องรบกวนเล็กๆน้อยๆเข้ามาแทรกเป็นประจำ การที่คุณทำตารางการทำงานขึ้นมาจริงๆ และแปะไว้บนฝาผนัง ให้ทุกคนในครอบครัวได้เห็น พวกเขาจะได้เคารพในการใช้เวลาของคุณ เพราะพวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ว่าคุณจัดเวลาไว้สำหรับทำอะไรบ้างในแต่ละวัน

2. ตัดสิ่งรบกวนออกไปให้หมด
คุณ ต้องยอมรับว่า เวลาในชีวิตของคุณ มักจะหมดไปกับผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆของคุณ คนในครอบครัว ลูกๆ ดังนั้น นับจากวันนี้ไป พวกเขาต้องเคารพในการใช้เวลาของคุณ คุณต้องพูดให้พวกเขาเข้าใจ ไม่ใช่ว่า การที่คุณนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน แล้วพวกเขาจะคิดว่า เข้ามาพูดคุยกับคุณเมื่อไหร่ก็ได้ อันนั้น ย่อมทำให้คุณเสียสมาธิอย่างแน่นอน และย่อมส่งผลเสียต่อการทำงานอย่างต่อเนื่องของคุณ วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ ติดป้ายไว้หน้าห้องทำงานของคุณเลยครับว่า ตอนนี้กำลังใช้สมาธิทำงานอยู่ ห้ามรบกวน !

3. ทำรายการ "สิ่งที่ต้องทำ"
คุณ ต้องเขียนเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จลุล่วงออกมาบนหน้ากระดาษ อย่าเก็บมันเอาไว้แค่ในใจ การเขียนออกมา จะทำให้คุณโฟกัสการทำงานอยู่ที่เป้าหมายได้ดีกว่า ไม่เชื่อลองทำดูครับ ผมเองใช้วิธีนี้เป็นประจำ ทั้งๆที่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ผมยังชอบจดเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำให้ลุล่วงไว้บนกระดาษอยู่ดี เพราะขณะที่เราจดนั้น มันคือการกระตุ้นย้ำเตือนลงไปในสมองเลยครับ ว่านี่คือสิ่งสำคัญที่สุด ที่ต้องทำให้สำเร็จนะ

4. เข้า Center เมื่อจำเป็น เท่านั้น !
นี่ เป็นสิ่งที่อาจจะขัดแย้งกับใจของเพื่อนๆนักธุรกิจเครือข่ายหลายท่าน ที่อาจถูกอบรมให้เห็นคุณค่าของการเข้า Center เป็นประจำ ผมเองก็เห็นคุณค่าของ Center เช่นกันครับ แต่บ่อยครั้ง ที่ผมพบว่า การเข้า Center คือการที่เรา เข้าไปพูดกันแต่เรื่องเดิมๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว มันก็ไม่ได้ช่วยให้เราได้งานอะไรเพิ่มขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างนั้น จะเสียเวลาไปเข้า Center เพื่ออะไรครับ ยกเว้นว่า การเข้า Center นั้น เพื่อให้เราได้ฝึกพูดต่อหน้าชุมชน เพื่อให้เราได้เรียนรู้เรื่องแผนธุรกิจให้กระจ่างชัด เพื่อให้เราได้เรียนรู้เทคนิควิธีการต่างๆจากเพื่อนรวมทีม และที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าหากว่า เราเอง ใช้ Center เพื่อเป็นที่นัดหมายดาวน์ไลน์ใหม่ๆของเรา เพื่อที่เราจะได้ใช้เวลาสอนงานพวกเขาอย่างเต็มที่ อันนั้นสมควรอย่างยิ่งครับ ที่เรา"ต้อง"ไป Center แต่ถ้านอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ผมอยากให้เอาเวลามาโฟกัสที่การทำงานให้ลุล่วงตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ใน แต่ละวันมากกว่านะครับ

5. ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์พูดคุยกับ Upline และ Downline ตลอดเวลา
บ่อย ครั้งที่เรามักคิดว่า การรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ระหว่างเรากับอัพไลน์และดาวน์ไลน์ คือ การได้โทรศัพท์พูดคุยกันตลอดเวลา เพราะเราคิดว่า นั่นคือการสร้างแรงจูงใจร่วมกันได้ดีที่สุด โดยเฉพาะการที่เราโทรพูดคุยกับดาวน์ไลน์ใหม่ๆของเราเสมอ แต่ผมอยากจะบอกว่า เอาเวลาไปทำงานให้ลุล่วงตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ จะดีกว่าครับ แล้วพูดคุยเฉพาะเท่าที่จำเป็น ไม่อย่างนั้น จะกลายเป็นองค์กรที่มีแต่ผู้คนพูดคุยกันตลอดเวลา แต่ไม่มีใครลงมือทำงานจริงๆซะทีน่ะครับ

6. จัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำ
แน่ นอนครับว่า การจะใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องเริ่มจากการถามตัวเราเองว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำ และเมื่อทำแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมอยากให้ลองถ่ายโอนงานบางอย่างออกไปบ้างครับ บางอย่างเราก็ใช้เงินทำงานแทนได้ เช่น บางครั้งผมไม่มีเวลารวบรวมเนื้อหาใหม่ๆจากต่างประเทศ ผมก็ใช้วิธีจ้างน้องๆนักศึกษา ให้มาช่วยผมรวบรวมข้อมูล เพราะผมต้องการเอาเวลาไปโฟกัสที่งานหลักจริงๆ ซึ่งไม่มีใครทำแทนผมได้ นั่นคือ โฟกันที่การสอนทีมงานของผม ให้เชี่ยวชาญการใช้ ระบบดึงดูดอัตโนมัติ ให้ได้ และสอนให้พวกเขา รู้วิธีสอนทีมงานรุ่นต่อๆไป ให้เชี่ยวชาญการใช้ ระบบดึงดูดอัตโนมัติ เช่นกัน นี่คืองานที่สำคัญที่สุด เพราะมันทำให้ผมสามารถเกษียณได้อย่างแท้จริงครับ

7. ต้องหัดพูดคำว่า "ไม่"!
คุณ คงจำเป็นต้องหัดพูดคำว่า ไม่ ให้บ่อยขึ้นแล้วล่ะครับ ก่อนจะตกปากรับคำใครว่าจะไปร่วมงาน หรือไปร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งต้องพูดตรงๆว่า คนไทยเราส่วนใหญ่เป็นคนขี้เกรงใจครับ บางทีเพื่อนฝูงมาชวนไปนั่นไปนี่ ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน ไปๆมาๆ งานที่วางเอาไว้ว่า ต้องทำให้สำเร็จ ก็มักมีอันต้องถูกเลื่อนออกไปทุกที เพราะรับปากใครต่อใครเอาไว้ว่าจะต้องไปร่วมกิจกรรมกับเขานี่แหละ

8. ให้เวลากับการฝึกฝนเรียนรู้
อัน นี้แหละครับ คุ้มค่ากับการใช้เวลา มากที่สุด โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจเครือข่ายแบบอ อนไลน์ และเคยได้เข้าฟังบรรยายจากผมไปบ้างแล้ว คุณคงรู้ดีว่า มีอะไรมากมายแค่ไหนในโลกออนไลน์ ที่คุณต้องให้เวลาในการฝึกฝนและเรียนรู้วิธีการใหม่ๆอยู่เสมอ ให้คิดว่า เราเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอนน่ะครับ คงไม่มีนักวิ่งคนไหน ที่ลงแข่งโดยไม่ฝึกซ้อม การฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่องเท่านั้นครับ ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ได้

9. วางแผนตั้งแต่คืนนี้ ว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร
นี่ คือสิ่งที่ผมทำเสมอก่อนเข้านอนครับ ผมจะเขียนสิ่งที่ต้องทำหรือไอเดียใหม่ๆ วางไว้บนโต๊ะทำงานเสมอ และเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา นั่นคือสิ่งแรกที่ผมจะได้เห็นบนโต๊ะทำงาน ซึ่งมันจะช่วยย้ำเตือนผม ตั้งแต่เริ่มต้นวันนั้นเลยว่า ผมต้องใช้เวลาในวันนั้น เพื่อทำอะไรบ้าง

10. ลงโทษตัวเอง ถ้าคุณทำไม่ได้ตามตารางงานที่วางไว้
มัน คือการฝึกวินัยในตัวคุณครับ เหมือนกับที่ทหารผิดวินัย ก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าคุณไม่ตั้งกฏเกณฑ์ให้กับตัวเอง สุดท้ายแล้ว ต่อให้คุณทำตารางงานไว้ดิบดี คุณก็ไม่ลงมือทำตามนั้นอยู่ดี ซึ่งข้อนี้ คุณควรประกาศให้ทุกคนที่คุุณรู้จักได้รับรู้กันไปเลยครับว่า ถ้าคุณทำไม่ได้ตามที่วางตารางงานเอาไว้ คุณจะลงโทษตัวเองอย่างไรบ้าง

ทั้งหมดนี้ คือ หลัก 10 ข้อ แห่งการบริหารเวลาในชีวิต ซึ่ง ถ้าเพื่อนๆทำได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนๆจะพบว่า หนึ่งวันอาจไม่ได้มีเพียงแค่ 24 ชั่วโมง หรือแม้แต่ หนึ่งปีก็อาจไม่ได้มีแค่ 12 เดือน แต่มันอาจกลายเป็น 13-14 เดือน เพราะคุณได้ผลงานมากกว่าที่คนทั่วไปทำได้ และแน่นอนครับว่า ความสำเร็จย่อมต้องมาถึงคุณ รวดเร็วกว่าคนทั่วไปอย่างแน่นอนที่สุด ฟันธงได้เลยครับ !

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ความล้มเหลว ไม่ใช่โรคติดต่อทาง กรรมพันธุ์

ความล้มเหลว ไม่ใช่โรคที่ติดต่อทาง กรรมพันธุ์ ??..

มันไม่สำคัญหรอกว่า เพื่อนๆจะล้มเหลวกันมากี่ครั้ง!..

แต่มันสำคัญที่ว่า เมื่อล้มเหลวแล้ว เรายอมแพ้แบบหมดท่า หรือว่า เราใช้ความล้มเหลวเป็นบทเรียน แล้วแก้ไขให้มันดีขึ้น..

ถ้าหากว่า ความล้มเหลว ของเพื่อนๆ เกิดจากการใช้วิธีการเหล่านี้..


* ลิสต์รายชื่อคนรู้จัก ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ พี่น้อง ญาติสนิท เพื่อนฝูง คนรู้จัก คนข้างบ้าน

* ท่องสคริปต์ แล้วโทรชวน ตื้อ-ง้อ คนเหล่านั้น ให้ทำธุรกิจกับเรา

* นัดหมายเพื่อสาธิตสินค้า อธิบายแผนการตลาด

* พาเข้างานหรือเซ็นเตอร์

ไม่ต้องกังวลครับ.. เราสามารถแก้ไขได้ครับ..-D

ยุคนี้เทคโนโลยีในโลกอินเตอร์เน็ต เจริญรุดหน้าไปอย่างมาก เราสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ มาช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ แต่.. เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายได้ หรอกครับ!!

ผมกำลังจะบอกว่า การ หางานทำที่บ้าน ด้วยวิธีการในแบบออนไลน์นั้น เราต้องมีการติดต่อสื่อสารกับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน และเค้าก็ไม่รู้จักเรา ดังนั้น หากเราไม่รู้จักวิธีที่จะ ดึงดูด หรือตรึงความสนใจของผู้คน ก็ไม่มีประโยชน์ครับ พูดตรงๆ ก็คือว่า ถ้าดึงดูดความสนใจไม่ได้ ก็อย่าหวังว่า จะสร้างความสัมพันธ์ได้..

และถึงแม้เราจะตรึงความสนใจของเค้าได้ แต่ถ้าเราไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กันคนเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องได้ ในที่สุดเค้าก็จะลืมเรา เพราะการที่คนๆนึง จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างนึง ไม่ว่าจะเป็น การซื้อสินค้า หรือทำธุรกิจร่วมกับเรา การพูดคุยกันเพียงแค่ครั้งเดียว อาจไม่เพียงพอ

การที่เค้ายังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจกับเราในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่า เค้าจะไม่เข้าร่วมกับเราในอนาคต ดังนั้น เราจึงต้องมีการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่สนใจ อย่างต่อเนื่องด้วยครับ..

หากเพื่อนๆ ต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย หรือธุรกิจออนไลน์ เพื่อนๆจะต้องเรียนรู้ 2 สิ่งนี้

1. Hi Tech การใช้้เทคโนโลยีและเครืองมือในโลกอินเตอร์เน็ต เพื่อช่วยผ่อนแรงในการทำงาน

2. Hi Touch ศิลปะการใช้ถ้อยคำในสื่อสาร เพื่อสัมผัสใจคน (เปิดใจ)
ข่าวดี! ตอนนี้ 2 สิ่งนี้ ได้ถูก หลอมรวม เข้าด้วยกันเป็นระบบเรียบร้อยแล้ว เราเรียกมันว่า "ระบบดึงดูดอัตโนมัติ"

ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องแข่งขันกันด้วย ความรู้ ครับ หากเพื่อนๆอยากพบกับความสำเร็จอย่างแท้จริงและยั่งยืน ผมขอแนะนำว่า ให้เพื่อนๆรีบเร่งพัฒนาความรู้ไปให้ถึงจุดสูงสุด จนกระทั่งสามารถกลั่นกรองออกมาเป็น หลักสูตร หรือ ระบบ ที่สามารถถ่ายทอดให้กับผู้คนที่ต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายหรือธุรกิจออนไลน์ได้ ถึงตอนนั้นแล้ว เพื่อนๆจะกลายเป็น "มนุษย์แม่เหล็ก" ล้านเปอร์เซ็นต์..

ตำนาน "ความล้มเหลว" ในอดีตของผม Part 2

มาต่อกันเลยครับ.. นี่คือ ส่วนหนึ่งของผลลัพธ์ ที่ผมได้รับจากการทำธุรกิจเครือข่าย..


ผู้มุ่งหวัง ชื่อ จ พูดว่า "ผมสนใจธุรกิจนี้มากเลย แต่ผมยังไม่มีเงินค่าสมัคร ขอเวลาหาเงินก่อนนะ" (หลอกให้หวัง ลมๆแล้ง)

ผู้มุ่งหวัง ชื่อ ฉ พูดว่า "คุณโทรมาช้าไป ผมเพิ่งสมัครทำธุรกิจนี้ก้บญาติของผมไปเมื่อวานนี้เอง" (เซ็งเลย! รักแท้ แพ้ใกล้ชิด)

ผู้มุ่งหวัง ชื่อ ช พูดว่า "ผมว่าธุรกิจที่ผมทำอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่อยากทำธุรกิจอะไรเพิ่มหรอก" (ธุรกิจข้า ใครอย่าแตะ)

ผู้มุ่งหวัง ชื่อ ซ พูดว่า "ธุรกิจ ของคุณ สู้ธุรกิจของผมไม่ได้หรอก ของผมจ่ายผลตอบแทนดีกว่าของคุณเยอะ สินค้าก็ดีกว่า ผมว่าคุณนั่นแหละ ย้ายมาทำกับผมดีกว่า เดี๋ยวผมจะช่วยคุณเอง" (แทนที่จะชวนเค้า กลับโดนเค้าชวน ซะงั้น..)

ผู้มุ่งหวัง ชื่อ ฌ พูดว่า "ผมสนใจธุรกิจนี้นะ คุณทำมานานแค่ไหนแล้ว ผมเดาว่า คุณคงจะเพิ่งเข้ามาทำได้ไม่นานแน่เลย ถ้าเพิ่งทำผมไม่เอาด้วยนะ" (บังเอิญว่า เราก็เพิ่งจะเริ่มทำซะด้วยสิ รู้ได้ไงอ่า เกลียดคนรู้ทันจริงๆ ให้ตายเถอะ)

ผู้มุ่งหวัง ชื่อ ญ (คนนี้เพื่อนสมัยเรียนของผมเอง) พูดว่า "รา ก็สนใจธุรกิจตัวนี้นะ ได้ยินมานานแล้ว แต่ยังไม่กล้าทำ มีคนมาชวนทำหลายคนเหมือนกัน นายลองทำให้เราดูก่อนแล้วกัน ถ้านายมีรายได้ถึงเดือนละแสน เมื่อไร เราจะเข้าไปทำกับนายด้วย" (ให้ตายเถอะ! ขนาดเพื่อนกันแท้ๆ มันยังไม่เชื่อเราเลย เวรกรรมจริงๆ)

ชวน ไปชวนมา ก็หมด ไม่รู้จะไปชวนใครอีกแล้ว เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน แถมเจอการปฎิเสธบ่อยๆ ชักจะแย่ไฟเริ่มมอดลงเรื่อยๆ ความท้อแท้ เริ่มเข้ามาเยือน

ผมเริ่มถามตัวเองว่า นี่หรือคือ ผลตอบแทนที่ได้จากการทำธุรกิจเครือข่าย (ธุรกิจที่ใครๆก็บอกว่า ทำแล้วมีรายได้เดือนละแสน เดือนละล้าน ทำแล้วจะได้มีอิสรภาพทางการเงินและเวลา)

ผมถามตัวเองว่า ป็นเพราะผมยังใช้ความพยายามไม่มากพอ หรือว่า ผมใช้ความพยายามแบบผิดวิธีกันแน่??? (พูดคล้ายๆกับเกมส์โชว์รายการนึงเลย ที่เค้าพูดว่า "คุณทำดีแล้ว แต่ยังดีไม่พอ")

แล้วคูณล่ะ เคยมีประสบการณ์ หางานทำที่บ้าน แบบนี้เหมือนกับผมบ้างมั๊ย???

แล้ว มันจะมีวิธีไหนบ้างมั๊ย ที่จะทำให้ผมหรือแม้แต่คุณ สามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย โดยไม่ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดและผิดหวังอีกต่อไป ???

คุณคิดว่า มี หรือ ไม่มีครับ ?...

และ แล้ว.. ผมก็ได้พบกับคำตอบที่ผมตามหามานาน นั่นก็คือ วิธีการทำธุรกิจเครือข่ายแบบออนไลน์ รูปแบบใหม่ ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื้อรังให้กับนักธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่ ได้อย่างหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็น..

- การขาดแคลน ผู้มุ่งหวัง

- ไม่สามารถชวนผู้มุ่งหวังทำธุรกิจได้

- ดาวน์ไลน์หลับ(ยาว)

เคล็ดลับ สุดยอดวิชา อยู่ที่นี่แล้วครับ เราเรียกมันว่า ระบบดึงดูดอัตโนมัติ

ความรู้ คือ "อำนาจวิเศษ"

ความรู้ คือ อำนาจวิเศษ.. sdsdffsdsdf


พวกเราทุกคน เริ่มต้นศึกษาเล่าเรียนกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ จนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ หลังจากเรียนจบแล้ว พอเริ่มเข้าสู่ ช่วงชีวิตของการทำงาน เราก็ยังต้อง ศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานที่เราทำ ใช่มั๊ยครับ..

เพื่อนๆจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าเราจะทำงานอะไร เราก็ต้องศึกษา เรียนรู้ เกี่ยวกับงานนั้นๆ ยิ่งเรารู้แจ้ง เห็นจริง ในงานที่เราทำมากเท่าใด การทำงานของเราก็จะประสบความสำเร็จได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น..

หากเพื่อนๆ คือ ผู้ที่กำลังมอง หางานทำที่บ้าน และคิดที่จะเริ่มต้นทำ ธุรกิจเครือข่าย, ธุรกิจออนไลน์ หรือ เพื่อนๆกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำอยู่ล่ะก็ วันนี้โอกาสที่ดีที่สุด วิ่งมาถึงหน้าบ้านของเพื่อนๆ แล้วครับ

วันนี้ จะดีมั๊ย!.. หากมีโรงเรียนสักแห่งนึง ที่พร้อมจะสอนและถ่ายทอดความรู้ที่เป็น แก่นแท้ของการทำธุรกิจในโลกออนไลน์ ให้กับเพื่อนๆ ฟรี.. !!

ถูกต้องแล้วครับ.. เพื่อนๆ ไม่ได้ฟังผิดหรอกครับ เพราะผมกำลังจะบอกกับเพื่อนๆว่า โรงรียนสอนการทำธุรกิจเครือข่ายในแบบออนไลน์ ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว และเพื่อนๆทุกท่านที่สนใจ สามารถเข้ามาเรียนได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว และที่สำคัญ เพื่อนๆสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้จากที่บ้านของเพื่อนๆเอง

ความรู้ดีๆ มีไว้สำหรับแบ่งกันครับ.. หากเพื่อนๆสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ผมมี E-book สุดยอดเคล็ดวิชา ที่ชื่อว่า "คัมภีร์แรงดึงดูด" มอบให้กับเพื่อนๆ ไปศึกษาด้วยตนเอง ฟรี.. เพียงเพื่อนๆกรอก ชื่อ-อีเมล์ ลงในแบบฟอร์มด้านล่างนี้!!!..


..ในโลกของธุรกิจเครือข่าย หรือ ธุรกิจออนไลน์ มีทั้ง ผู้ที่ประสบความสำเร็จ และ ผู้ที่ล้มเหลว ดังนั้น หากเพื่อนๆ ไม่อยากที่จะล้มเหลว ผมขอแนะนำให้เพื่อนๆ รีบศึกษาหาความรู้ และพัฒนาความรู้ให้ไปสู่จุดสูงสุด จนกระทั่ง สามารถกลั่นกรองออกมาเป็น หลักสูตรหรือระบบ ที่จะทำให้ผู้อื่นสามารถเดินตามและเข้ามาขอศึกษาเรียนรู้จากเพื่อนๆได้ เมื่อถึงวันนั้นละครับ เพื่อนๆจะกลายเป็น มนุษย์แม่เหล็ก ที่สามารถดึงดูดผู้คนที่สนใจเข้ามาหาเพื่อนๆได้เอง อย่างต่อเนื่องครับ..

ฟันธง..!!!


วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

E-mail Marketing VS E-mail Selling ??..

ก่อนจะพูดถึงเรื่องของ E-mail Marketing ผมขออนุญาตพูดถึง E-mail Selling (Spam E-mail)


ทุกวันนี้ หากเพื่อนๆ สังเกตให้ดีๆ จะพบว่า มีอีเมล์ต่างๆส่งมาหาเรามากมาย จนบางครั้ง เราแทบไม่อยากจะเปิดอีเมล์เหล่านั้นอ่านเสียด้วยซ้ำ เพราะความที่มันมีจำนวนเยอะมากๆ หรือไม่ก็เบื่อที่จะอ่านมัน นั่นเอง..

อีเมล์ที่ส่งมาหาเรา โดยไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นอีเมล์ที่เราไม่ได้ต้องการที่จะรับ ว่าแต่.. แล้วอีเมล์เจ้ากรรมเหล่านี้ มันส่งมาจากไหน.. แล้วมันส่งมาหาเราได้อย่างไร..(ผู้ส่ง.. รู้อีเมล์ของเราได้อย่างไร เทพ..จริงๆ)

อีเมล์ที่ส่งไปยังผู้รับ โดยที่ผู้รับไม่ได้ร้องขอ หรือเต็มใจที่จะรับอีเมล์ เราเรียกมันว่า Spam email ส่วนใหญ่อีเมล์เหล่านี้ มักจะส่งมาหาเราด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น

- โฆษณาขายสินค้า
- โฆษณาเกี่ยวกับบริการต่างๆ
- โฆษณาเกี่ยวกับ โอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
- ฟอร์เวิร์ดเมล์ เีกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ นาๆ แล้วแฝงด้วยการโฆษณาขายสินค้า หรือเสนอโอกาสทางธุรกิจ
- ฯลฯ

เพื่อนๆหลายท่าน อาจจะพอเดากันได้นะครับว่า ผู้ที่ส่งเมล์มาหาเราเหล่านั้น เค้ารู้อีเมล์ของเราได้อย่างไร!! ทั้งๆที่เราไม่เคยบอกให้เค้ารู้สักหน่อย!!.. (พระเจ้าจอร์จ.. นายยอดมาก..)

จริงๆแล้ว.. มันก็ไม่ยากหรอกครับ เพราะปัจจุบันนี้ มีโปรแกรมที่ใช้ในการ ดูดอีเมล์ ตามเว็บไซต์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย เ่ช่น โปรแกรม Advance Email Extractor (ผมรู้ได้อย่างไรนะเหรอ.. ก็เพราะผมเคยใช้มาก่อนไง..)

หลังจากที่เรา ดูด อีเมล์ของชาวบ้านเค้ามาได้เยอะพอแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะส่งเมล์ไป รบกวน ชาวบ้านเค้าซะที.. ซึ่งก็ไม่ยากอีกแหละ.. เพียงแค่ใช้โปรแกรมที่สามารถส่งอีเมล์ได้คราวละมากๆ เช่น โปรแกรม Smart Serial Mail (รู้ดีอีก.. ก็ผมใช้มาหมดแล้วไง..) โปรแกรมนี้มันยอดจริงๆ สามารถส่งอีเมล์ไป รบกวน ชาวบ้าน ชาวเมือง ได้วันละ เป็นหมื่นๆฉบับ โห..ทำได้ไงเนี่ย (วันละกว่า 5,000 ฉบับ ผมก็ทำมาแล้ว..)

ทุกวันนี้ กรรมก็เลยตามสนองผม ทันตาเห็นเลย มีผู้หวังดี ส่งเมล์มาให้ผมเกี่ยวกับเรื่อง หางานทำที่บ้าน วันละไม่ต่ำกว่า 100 ฉบับ นี่ล่ะครับ มันทำให้ผมรู้ว่า เรารู้สึกอย่างไร คนอื่นเขาก็รู้สึกอย่างนั้น เหมือนกัน..

แล้ว E-mail Marketing มันต่างกับ E-mail Selling อย่างไรล่ะ??..

E-mail Marketing เป็นการส่งอีเมล์ไปหาผู้รับ โดยที่เราต้องได้รับ อนุญาติ จากผู้รับก่อน เราถึงจะมีสิทธิ์ส่งอีเมล์ไปหาเค้าได้ และนอกจากนั้น ผู้รับก็มีสิทธิ์ที่จะ ขอยกเลิก การรับอีเมล์จากเรา เมื่อไรก็ได้..

แต่การที่ผู้รับจะยินดีรับอีเมล์จากเรานั้น หมายความว่า อีเมล์ของเราจะต้อง มีเนื้อหาที่มีคุณค่าในเชิงของการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับได้อย่างแท้จริง

นอกจากเนื้อหาในอีเมล์ที่มีประโยชน์แล้ว หากผู้รับไม่ต้องการที่จะรับอีเมล์จากเราอีกต่อไป เค้าก็จะต้องสามารถยกเลิกการรับอีเมล์จากเราได้อีกด้วย ซึ่งการส่งอีเมล์ในแบบปกติ ที่เราๆท่านๆใช้กันอยู่นั้น ไม่สามารถตอบสนองในส่วนนี้ ได้ เราจึงต้องอาศัยบริการจากผู้เชียวชาญอีกที นั่นเอง

ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็มีเว็บไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกับ E-mail Marketing โดยเฉพาะ โดยผมจะขอแนะนำผู้ให้บริการสัก 3 ราย ได้แก่ AWeber, GetResponse, IContact

หากเพื่อนๆ อยากรู้ว่า E-mail Marketing มีความสำคัญต่อการทำ mlmonline อย่างไร เพื่อนๆสามารถกรอก ชื่อ-อีเมล์ เพื่อรับ E-Book "คัมภีร์แรงดึงดูด" ไปศึกษาด้วยตนเองได้ ฟรี..


วันนี้ เพื่อนๆกำลังทำ E-mail Marketing หรือ E-mail Selling ??..


คอมเมนต์.. นั้นสำคัญไฉน??..

เพื่อนๆ หลายท่าน คงเคยเข้าไปเขียน คอมเมนต์ (แสดงความคิดเห็น) ตามบล็อก หรือ เว็บไซต์ต่างๆ กันมาบ้างแล้ว ใช่มั๊ยครับ...

เพื่อนๆ เคยสงสัยมั๊ยว่า.. ทำไม เว็บหรือบล็อกเหล่านั้น ถึงต้องมี พื้นที่เล็กๆ ให้ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชม ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ??.. มันมีประโยชน์อะไรหรือ??.. แล้วมันจำเป็นหรือไม่ ??..

!!น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่บรรดา เจ้าของเว็บหรือบล็อกทั้งหลาย ไม่เคยตระหนักถึง คุณค่าของการคอมเมนต์เลย ทั้งๆที่บล็อกจากหลายๆค่าย ไม่ว่าจะเป็น Wordpress, Blogger ฯลฯ ต่างก็มี พื้นที่สำหรับการคอมเมนต์ ให้สำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นกัน

การคอมเมนต์ ถือเป็นวิธีสุดยอดที่ช่วยให้เจ้าของบล็อกหรือเว็บไซต์ สามาถเพิ่มความนิยมและจำนวนผู้เยี่ยมชมได้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

จำนวนคอมเมนต์ ในแต่ละบทความของคุณ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เข้ามาในเว็บหรือบล็อกของคุณได้ ยิ่งมีจำนวนคอมเมนต์ที่คนมาโพสต์ไว้มากเท่าไร ยิ่งทำให้บล็อกหรือเว็บของคุณดูน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น และนั่นจะเป็นการตรึงให้ผู้เยี่ยมชมเหล่านั้น อยู่ในหน้าเว็บของคุณนานขึ้น และอ่านเนื้อหาต่างๆมากขึ้น นั่นเอง

พวกเค้าจะคิดว่า การที่มีคนเข้ามา คอมเมนต์ มากๆ แสดงว่า เนื้อหาในบล็อกของคุณมีคุณภาพ และมีประโยชน์ ซึ่งนั่นอาจจะส่งผลให้ผู้เยี่ยมชม ทำการ Bookmark บล็อกของคุณเก็บเอาไว้ หรือ subscribe เพื่อที่จะได้กลับเข้าอ่านบทความอื่นๆของคุณอีก

ในฐานะของเจ้าของบล็อกหรือเว็บไซต์ ไม่มีอะไรจะดีกว่า การที่ ผู้เยี่ยมชม จะ ฺbookmark หรือ subscribe เว็บหรือบล็อกของคุณ เพื่อที่จะกลับมาอ่านหรือติดตามความเคลื่อนไหวในบล็อกหรือเว็บของคุณอย่างสม่ำเสมอ..

นอกจากนั้น คอมเมนต์ ยังช่วยเพิ่มความนิยมของบล็อกหรือเว็บคุณ ในสายตาของ Search Engine ต่างๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo ฯลฯ ซึ่ง Search Engine เหล่านี้ ต่างก็ชื่นชอบบล็อกที่ีมีเนื้อหา สดใหม่ และมีการอัปเดต อยู่เรื่อยๆ

ดังนั้น ทุกๆคอมเมนต์ที่ผู้เยี่ยมชม ได้เขียนทิ้งไว้จะช่วยทำให้บล็อกของคุณดูมีชีวิตชีวา และบ่งบอกถึงความมีคุณค่าของเนื้อหาในบล็อกของคุณนั่นเอง..

นอกจากนั้น คอมเมนต์ยังเป็นช่องทางให้เราสามารถติดต่อใกล้ชิดกับผู้เยี่ยมชมมากยิ่งขึ้น เพื่อนๆสามารถเข้าไป ตอบคอมเมนต์ ที่ผู้เยี่ยมชม ได้ทิ้งเอาไว้ ซึ่งตรงนี้จะทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สีกดีๆกับเราและมีความใกล้ชิดกับเรามากขึ้น และที่สำคัญ ผู้เยี่ยมชมเหล่านั้นก็จะยินดีที่จะเข้ามาอ่านบทความต่างๆของเรา อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ..

การคอมเมนต์ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่ หางานทำที่บ้าน ด้วยการทำธุรกิจเครือข่ายในแบบออนไลน์ สามารถทำ SEO (Search Engine Optimization) ให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น

หากเพื่อนๆต้องการประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงกับ การทำ mlmonline ล่ะก็ จงรีบเร่งศึกษา หาความรู้ ให้มากที่สุดครับ เพราะความรู้ที่แท้จริง คือสิ่งเดียวที่จะช่วยให้เพื่อนๆพบกับความสำเร็จ

ความรู้ดีๆ มีไว้สำหรับแบ่งกันครับ.. หากเพื่อนๆสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ผมมี E-book สุดยอดเคล็ดวิชา ที่ชื่อว่า "คัมภีร์แรงดึงดูด" มอบให้กับเพื่อนๆ ไปศึกษาด้วยตนเอง ฟรี.. เพียงเพื่อนๆกรอก ชื่อ-อีเมล์ ลงในแบบฟอร์มด้านล่างนี้!!!..

รู้อย่างนี้แล้ว.. ก็รีบไป ตอบคอมเมนต์ กันเลย... บรื๊น.. บรื๊น..